การกลับสู่รายการใหญ่อีกครั้ง ของทัพอัศวินสีส้มเนเธอร์แลนด์

ทีมอัศวินสีส้ม ทีมชาติเนเธอร์แลนด์นั้น เป็นอีกทีมหนึ่งที่สร้างสันให้แก่การแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ระดับชาติมาโดยตลอด แต่นับตั้งแต่การคว้าอันดับที่ 3 ฟุตบอลโลก 2014 ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพได้อย่างยิ่งใหญ่ บนแผ่นดินบราซิล พวกเขากลับเงียบหายไป ฟอร์มเก่งจากทัวร์นาเมนท์ดังกล่าวหดหายไป จนไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือก เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย ในรายการใหญ่ สองครั้งล่าสุด คือยูโร 2016 และฟุตบอลโลก 2018 แต่พวกเขาสามารถกลับมาได้แล้ว ในยูโร 2020 ครั้งนี้ มาดูกันว่าอัศวินสีส้มที่กลับมาใหม่ ในครั้งนี้จะไปเสริมเขี้ยวเล็บมาได้ดีเพียงใด

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ โรนัลด์ คูมัน อดีตนักเตะระดับตำนานของประเทศ พวกเขาผ่านเข้ารอบมา ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม บี ซึ่งเป็นรองทีมแกร่งร่วมกลุ่มอย่างทีมชาติเยอรมัน พวกเขาทำผลงาน ชนะ 6 เสมอ 1  และแพ้ 1 ซึ่งความพ่ายแพ้นัดเดียวของพวกเขา ก็คือการพ่ายแพ้ให้แก่ทีมชาติเยอรมัน แบบผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะนั่นเอง ดังนั้นถ้าไม่หลุดเสมอไอร์แลนด์ เหนือ พวกเขาก็จะมีแต้มเท่ากับทีมอินทรีเหล็กพอดิบพอดี

ในรอบสุดท้ายยูโร 2020 นี้พวกเขาถูกจับฉลาก อยู่ในกลุ่มที่ไม่หนักมากนัก อย่างกลุ่ม ซี ร่วมกับทีมชาติ ออสเตรีย และทีมชาติยูเครน และยังรอทีมจากรอบเพลย์ ออฟ อีกหนึ่งทีม ซึ่งนับว่าถึงแม้พวกเขาจะถูกจับฉลากเข้ามาจากโถสอง เนื่องจากการเข้ารอบมาในอันดับ 2 ของกลุ่ม แต่คู่ต่อสู้ร่วมกลุ่มก็ยังไม่ถือว่าหนักมาก พวกเขามีลุ้นที่จะเข้ารอบต่อไปสูงมากเลยทีเดียว ถ้าไม่หลุดฟอร์มพลาดกันไปเอง

สำหรับขุมกำลังชุดนี้ พวกเขามีผู้เล่นฝีเท้าดีมากมายหลายคน นำทัพมาโดยกัปตันทีมอย่างเฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ ปราการหลังจอมแกร่งจากทีมหงส์แดงลิเวอร์พูล ซึ่งก้าวขึ้นไปเป็นกองหลังระดับโลกแล้วในปัจจุบัน บวกกลับผู้เล่นตัวเก๋าอย่างดาลีย์ บลินด์ รวมไปถึงเด็กหนุ่มฝีเท้าดีอย่าง สเตฟาน เดอ ไฟรจ์จากอินเตอร์ และมาธิส เดอ ลิกต์ ทำให้หลังบ้านของพวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก ส่วนในแดนกลางยังมีเควิน สตรูทมันด์ และจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม คอยประคองดาวรุ่งเลือดใหม่ฟอร์มแรงอย่าง แฟรงกี้ เดอ ยอง และดอนนี่ ฟาน เดอ บีก คอยสนับสนุนแผงเกมรุกที่มีทั้ง ตัวจี๊ดอย่าง เมมฟิส เด ปาย จากลียง และสตีเน เบิร์กไวจ์น จากสเปอร์ รวมไปถึงลุค เดอ ยองก์หน้าเป้าจากเซบีญ่า

เมื่อดูจากขุมกำลังของทีมอัศวินสีส้มชุดนี้แล้ว นับว่าเป็นกลุ่มผู้เล่นพลังหนุ่ม ที่น่าจับตามองย่างมากเลยทีเดียว ด้วยความที่อุดมไปด้วยนักเตะดาวรุ่ง พวกเขามีดีพอที่จะพัฒนาทีมต่อไปอีกในอนาคต และสามารถจะสร้างผลงานที่ดีเป็นเซอร์ไพรส์ในรายการยูโร 2020 นี้ได้อย่างแน่นอน ถ้าหากทีมไหนประมาทพวกเขา ด้วยการมองว่ามีแต่เด็กหนุ่มที่ขาดประสบการณ์ หรือตัดสินพวกเขา จากผลงานตกลงไปในรอบหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็พร้อมที่จะทำให้ทีมเหล่านั้น น้ำตาตกได้เหมือนกัน เพราะเมื่อเหล่าอัศวินสีส้ม สวมชุดเกราะแล้วไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ นั่นแปลว่าพวกเขาอยู่ในสถานะพร้อมรบอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : https://www.ireallylikefootball.com/3395/